สารบัญ
- ชีสเค้ก คืออะไร
- ครีมชีสคืออะไร
- ใช้ครีมชีสแบบไหนทำขนม
- มารู้จักชีสเค้ก (Cheesecake) ทั้ง 2 ประเภทและวิธีการทำกัน
ชีสเค้กเป็นชีสเค้กหวานที่เสิร์ฟเป็นของหวาน มันถูกจัดทำขึ้นในร้านกาแฟและร้านอาหารมากมาย ในเวลาเดียวกัน ไม่มีสูตรเดียวสำหรับชีสเค้กอเมริกันแบบดั้งเดิม เพราะพ่อครัวขนมแต่ละคนเตรียมในแบบของเขาเอง: ใครบางคนใช้ครีมเปรี้ยวเพื่อทำเคลือบ และบางคนใช้ครีม และบางคนชอบที่จะเติมนมข้น บางคนชอบมาสคาร์โปเน่ชีสเค้ก บางคนชอบฟิลาเดลเฟียหรือริคอตต้า ดังนั้นทุกคนที่ตัดสินใจทำชีสเค้กแบบคลาสสิกจึงมีสูตรของตัวเอง แต่ไม่ว่าสูตรไหน ของหวานก็ไม่ใช่แค่สวยเหมือนในรูปเท่านั้นแต่ยังอร่อยอีกด้วย
Bread at HÖME
ขนมปัง , โดนัท , ขนมเค้ก , ของทางเล่น , พิซซ่าโฮมเมด
ชีสเค้กเป็นพายซึ่งมีส่วนผสมหลักคือซอฟต์ชีสหรือคอทเทจชีส
แม่บ้านหลายคนมั่นใจว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำขนมนี้ที่บ้านเพราะสูตรชีสเค้กนั้นซับซ้อน คงจะเป็นความเข้าใจผิดที่ว่าเฉพาะนักทำขนมมืออาชีพเท่านั้นที่สามารถทำเค้กนี้ได้ อันที่จริง หากคุณทำตามสูตรเป๊ะๆ คุณก็จะได้ชีสเค้กคลาสสิกที่ยอดเยี่ยม เรียกอีกอย่างว่า “นิวยอร์ก”
“ชีสเค้ก” แปลตามตัวอักษรว่า “ชีสพาย” ชื่อนี้บ่งบอกว่ามีชีสอยู่ในส่วนผสมของพาย แต่ไม่ใช่ว่าชีสทุกชนิดจะเหมาะกับการทำอาหาร ชีสชนิดใดที่ใช้ทำ “นิวยอร์ก” หรือชีสเค้กแบบคลาสสิก?
ใช่ ครีมชีสมีเนื้อสัมผัสคล้ายกับคอทเทจชีสมาก แต่การแทนที่ด้วยคอทเทจชีสธรรมดาจะไม่ทำงาน ท้ายที่สุดแล้วผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวจะทำให้จานมีรสเปรี้ยว อย่างไรก็ตามแม่บ้านบางคนเปลี่ยนชีสราคาแพงด้วยชีสกระท่อมเมื่อเตรียมพายนี้
ชีสฟิลาเดลเฟียดีที่สุดสำหรับชีสเค้ก มันทำจากครีมและครีม ชีสนี้นุ่มและน่ารับประทานมาก
คุณสามารถแทนที่ฟิลาเดลเฟียด้วยมาสคาร์โปเน่ชีสได้หากสูตรอนุญาต “มาสคาโปน” มีความสม่ำเสมอคล้ายกับครีมหนัก คุณสามารถค้นหารูปภาพคำอธิบายองค์ประกอบบนอินเทอร์เน็ต ด้วยชีสที่มีรสชาติเป็นกลางนี้ คุณจะสามารถทำชีสเค้กแบบคลาสสิกที่นุ่มมากได้ นอกจากชีสเค้กแล้ว มาสคาร์โปเน่ยังใช้ทำทีรามิสุซึ่งเป็นขนมชื่อดังของอิตาลีอีกด้วย
ชีสเค้กดีกว่าซื้อเป็นก้อน
มันจะดีกว่าที่จะซื้อชีสที่บรรจุในก้อน ชีสที่ขายเป็นหลอดถูกตีแล้ว และในขั้นตอนของการปรุงอาหารคุณจะต้องตีชีสอีกครั้งซึ่งจะทำให้อากาศถ่ายเทมากเกินไป สิ่งนี้ไม่พึงปรารถนาอย่างมากสำหรับขนมของเรา
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ : ชีสมีประโยชน์อย่างไร
ชีสเค้ก คืออะไร
ชีสเค้ก (Cheesecake) เป็นขนมปังที่ประกอบด้วยชั้นของชีสนุ่มๆ รสหวาน ผสมกับครีม น้ำตาล ไข่ ชีสเค้กยังเป็นขนมที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบในขณะที่หลายคนคิดว่ามีต้นกำเนิดในนิวยอร์ก แต่ที่จริงแล้วเมื่อราวศตวรรษที่ 5 ชีสเค้กชิ้นแรกถูกทำขึ้นบนเกาะซามอสของกรีก นักมนุษยวิทยากายภาพได้ขุดพบแม่พิมพ์ชีสที่นั่นซึ่งมีอายุประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล
ได้มีการผลิตชีสและเนยแข็งน่าจะมีอายุประมาณหลายพันปีก่อนหน้านี้ ชีสเค้กถือเป็นแหล่งพลังงานที่ดีและมีหลักฐานว่ามันถูกเสิร์ฟให้กับนักกีฬาในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกในปี 776 ก่อนคริสต์ศักราช อีกทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าวชาวกรีกยังรู้จักใช้ชีสเค้กในแต่งงาน
มีส่วนผสมง่ายๆ เช่น แป้งข้าวสาลี น้ำผึ้ง และชีส ถูกนำมาประกอบเป็นเค้กแล้วอบ ซึ่งชีสเค้กได้รับการแนะนำให้เป็นที่รู้จักในเวลาต่อมาเมื่อผู้อพยพมาจากยุโรปไปอเมริกาที่สำคัญชีสกระท่อมเป็นที่นิยมใช้มากที่สุดในสูตรอาหารในสมัยนั้นอีกด้วย
เมนูแนะนำ : เค้กช็อกโกแลต
เค้กโฮมเมดของ Bread at HÖME นั้น ใช้ เมล็ดวนิลาแท้ ทุกชิ้น
มารู้จักครีมชีสที่ใช้ในขนมอบกัน
ครีมชีสเป็นวัตถุดิบที่สำหรับคนทำขนมอบน่าจะคุ้นเคย เพราะชีสเค้กทั้งหลายทำจากครีมชีสเกือบทั้งนั้น และอย่างที่เรารู้ ใครๆก็ชอบชีสเค้ก แต่ครีมชีสคืออะไร ตกลงมันคือชีสหรือมันคือครีม ชื่อมันดูเหมือนจะมีไขมันสูง กินแล้วอ้วนไหม และคำถามสุดฮิต ควรใช้ยี่ห้อไหนดี ที่เด็ดกว่านั้น เพื่อนหนึ่งที่เป็นมือใหม่หัดอบ ไปค้นสูตรในอินเตอร์เน็ตมา แล้วมาถามหนึ่งว่า ครีมชีสคืออะไร หน้าตาเป็นยังไง หาซื้อได้ที่ไหน อย่ากระนั้นเลย มารู้จักครีมชีสที่ใช้ในขนมอบกัน ตอนท้ายบล็อกมีรีวิวครีมชีสแต่ละยี่ห้อ (เท่าที่หาได้) มารีวิวให้เห็นถึงความแตกต่าง เป็นไอเดียในการเลือกซื้อ
ครีมชีสคืออะไร
ก่อนจะไปรู้จักครีมชีส มาทำความเข้าใจกับ “ครีม” และคำว่า “ชีส” ก่อนนะคะ
- ครีม เป็นผลิตภัณฑ์จากน้ำนม พูดง่ายๆคือน้ำนมที่มีปริมาณไขมันนมสูง ขั้นตอนการผลิต คือช้อนเอาไขมันที่ลอยขึ้นมาจากน้ำนมวัวที่ตั้งไว้ ครีมจะมีลักษณะเป็นของเหลวที่มีไขมันสูง และจะมีไขมันอยู่ระหว่าง 10-60% ปริมาณไขมันต่างกันจะทำให้ครีมมีชื่อเรียกต่างกัน เช่น วิปปิ้งครีมมีไขมมันนมประมาณ 33-35% เป็นต้น ครีมนี่เองที่จะนำไปเนย ดังนั้น ตระกูลครีมและเนยจะอุดมไปด้วยไขมัน ^_^
รสชาติ –> หอม มัน มีรสหวานนิดๆ (รสคล้ายนม แต่มันกว่ามาก) - ชีส (เนยแข็ง) เป็นผลิตภัณฑ์จากนมเช่นเดียวกัน แต่เป็นการแยกโปรตีนออกจาน้ำนม ซึ่งการแยกมักใช้กรด ทำให้ชีสมักมีรสเปรี้ยว โปรตีนที่แยกได้จะถูกนำไปหมักบ่มกับเชื้อราหรือแบคทีเรียต่างๆแล้วแต่ชน่ดของชีส ดังนั้น ชีสจึงจัดอยู่ในอาหารโปรตีนสูง นอกจากนี้ยังมีสารอาหารอื่นๆ อีกมากมาย และแน่นอนว่าจะมีไขมันอยู่ได้ ซึ่งปริมาณไขมันมีมากน้อยแค่ไหนขึ้นกับชนิดของชีส
- ครีมชีส เป็นชีสชนิดหนึ่งที่ทำจากครีม หรือทำจากน้ำนมแล้วมาเติมครีมภายหลัง จัดเป็นชีสชนิด Fresh Cheese คือ เป็นชีสที่ไม่ต้องผ่านความร้อนและไม่ต้องหมักบ่ม มีกลิ่นและรสไม่จัด เนื้อชีสเป็นกึ่งของแข็งและมีความชื้นสูง เพื่อนๆชีสในตระกูลนี้ได้แก่ Feta, Mozzarella, Ricotta, Cottage Cheese และ Mascarpone
รสชาติ : รสเปรี้ยวอ่อนๆ และเค็มนิดๆ มีกลิ่นนม
ครีมชีสเป็นชีสที่มีปริมาณไขมันสูง สูงแค่ไหนถึงจะเรียกว่า ครีมชีส ได้ มีกฎหมายระบุไว้นะคะ อย บ้านเราระบุว่าครีมชีสต้องมีไขมันนมหรือไขมันเนยไม่น้อยกว่า 60% ของน้ำหนัก และมีน้ำได้ไม่เกิน 55% ครีมชีสที่ดีเนื้อจะเนียน เรียบ
ครีมชีสเป็นที่นิยมสูงมากในวงการเบอเกอรีทำได้หลายอย่างมาก นอกจากชีสเค้กแล้วยังนำไปตีแต่งหน้าเค้ก&คัพเค้กได้ ทำเป็นไส้ขนม หรือเป็นส่วนผสมหนึ่งในขนมเค้กหรือคุ้กกี้ก็ได้ เรียกได้ว่าสารพัดประโยชน์เพราะรสชาติที่เข้มข้นที่อถดมไปด้วยไขมันนี่เองค่ะ ต้องยอมรับ
เมนูแนะนำ : ชีสเค้กหน้าไหม้
ใช้ครีมชีสแบบไหนทำขนม
ครีมชีสวางขายในตู้แช่ใกล้ผลิตภัณฑ์จากนมเนยทั้งหลาย มักมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยม (บางยี่ห้อใส่กระปุก) ขนาดแตกต่างกันไป ครีมชีสที่นิยมนำมาทำขนมคือ ครีมชีสไขมัน(นม)เต็มนะคะ จะทำให้ขนมอร่อยที่สุด เวลาซื้อ อ่านส่วนผสมนิดนึงนะคะว่ามันมีไขมันพืชผสมหรือไม่
ครีมชีสแบบไขมันต่ำ หรือครีมชีสที่ฉลากบอกว่าเป็น spreadable เป็นครีมชีสที่ผสมไขมันพืช ราคาถูกกว่า จริงๆจะเอามาทำขนมก็ได้ค่ะ แต่รสชาติและเนื้อขนมจะต่างไปเลย ถ้าอยากให้ขนมอร่อยเต็มๆ แนะนำให้ซื้อแบบไขมันเต็มดีกว่า ยกเว้นว่าจะทำสูตรไขมันต่ำ
เมนูแนะนำ : เค้กส้ม
ใช้ครีมชีสยี่ห้ออะไรดี
เป็นคำถามสุดฮิตที่หนึ่งถูกถามบ่อยมาก ซึ่งเอาจริงๆ ไม่รู้จะแนะนำอย่างไร ครีมชีสก็เหมือนผลิตภัณฑ์จากนมอื่นๆ ที่แต่ละยี่ห้อจะมีความแตกแต่งกันบ้างไม่ว่าจะเรื่องรสชาติ หรือรสสัมผัส เนื่องจากหนึ่งทำขนมกินเองเป็นหลักและด้วยนิสัยชอบลอง ก็เลยลองไปเรื่อยๆ แต่สำหรับคนที่ทำขาย การใช้ยี่ห้อเดิมทำขนมตลอดช่วยทำให้รสชาติขิงขนมเหมือนเดิม หนึ่งเลยตัดสินใจทำรีวิวครีมชีสขึ้นเพื่อเป็นไกด์ไลน์สำหรับคนทีีกำลังเลือกว่าจะใช้ยี่ห้ออะไรดี ส่วนใครจะตัดสินใจใช้ยี่ห้อไหนแนะนำให้ทดลองเองกับตัวเองดีที่สุดค่ะ ส่วนตัวหนึ่งใช้สลับๆ กันไปแต่ชอบของ Anchor และ Elle & Vire เพราะรสมันเบาๆ นุ่มนวลดี ส่วนใครที่ชอบรสแบบเข้มๆ แนะนำ Philadelphia ส่วน คาโรไลน์หนึ่งไม่ได้ใช้ ซื้อมารีวิวโดยเฉพาะ อิอิ
วิธีการเก็บครีมชีส
ครีมชีสมีปริมาณน้ำสูงและเป็นชีสสด ทำให้เสียง่ายและต้องเก็บในตู้เย็น อุรห๓ูมิที่เหมาะสมคือ 2-7 C ไม่ควรแช่ช่องฟรีซนะคะ ครีมชีสที่ยังไม่แกะจะมีอายุของมันตามที่ระบุไว้ในฉลากข้างกล่อง แต่พอแกะแล้วควรรีบใช้ให้หมด บางยี่ห้อระบุไว้เลยว่าควรให้ให้หมดภายใน 7 วันหลังแกะ ดังนั้นใครมีแผนจะใช้ครีมชีส ซื้อมาเท่าที่จะใช้ ไม่ต้องซื้อห่อใหญ่มา แกะใช้ครึ่งเดียว ที่เหลือไม่รู้จะใช้อีกเมื่อไหร่ เพราะครีมชีสราชอบ ราขึ้นแล้วเสียต้องทิ้ง เสียดายเงินค่ะ
รีวิวครีมชีส
ครีมชีสที่นำมารีวิวมีทั้งหมด 4 ยี่ห้อ ทั้งของไทยทำและนำเข้าได้แก่ Anchor, Caroline, Elle & Vire และ Philladelphia ซึ่งการรีวิวเป็นการรีวิวแบบชิมสดๆ ไม่ใช่เปรียบเทียบเมื่อนำไปทำขนมแล้วนะคะ เพื่อให้เห็นความแตกต่างกันของครีมชีสแต่ละตัวอย่างชัดเจนมากขึ้น
เมนูแนะนำ : สตรอเบอร์รีช็อตเค้ก
ส่วนผสมในการทำชิฟฟ่อนเค้ก
หลักๆแล้วส่วนส่วนผสมของเค้กชิฟฟ่อน ประกอบไปด้วย ชิฟฟ่อนเค้กไข่แดง น้ำตาลทราย เกลือ ผงฟู น้ำ นม น้ำมัน โดยเริ่มจากไข่แดง ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ คนเบาๆ ให้น้ำตาลทรายละลายหมด จึงเติมแป้ง น้ำ และนม ใช่ตะกร้อมือคนจนส่วนผสมเข้ากัน และเนียน แล้วค่อยๆ เติมน้ำมันพืช คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วกรองด้วยกระชองตาถี่ 1 รอบ
เทคนิคในขั้นตอนของไข่แดง
- การคนส่วนผสมไข่แดง จะต้องเบามือ อย่าให้เกิดฟองอากาศ เพราะจะทำให้เนื้อเค้กชิฟฟ่อนหยาบ
- ขั้นตอนการผสมไข่แดง ต้องรวดเร็ว อย่านาน หากนานจะเกิดกลูเต็นจะทำให้เนื้อขนมเหนียว
เมนูแนะนำ : เค้กโบราณ
มารู้จักชีสเค้ก (Cheesecake) ทั้ง 2 ประเภทและวิธีการทำกัน
ชีสเค้กก็เป็นหนึ่งในประเภทของเค้กที่ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มละมุนลิ้น มีรสชาติเปรี้ยวๆหวานๆที่ผสมกันอย่างลงตัว และความหอมมันของครีมชีสที่เป็นส่วนประกอบหลัก
ขั้นตอนการทำชีสเค้กค่อนข้างและรวดเร็วมากเมื่อเทียบกับวิธีการทำเค้กชนิดอื่นๆ เพียงแต่อาจจะต้องรอเวลาที่เค้กเซ็ตตัวในตู้เย็นเพื่อให้เนื้อเค้กมีความฉ่ำและอร่อยมากขึ้นเท่านั้น
เมนูแนะนำ : ชีสเค้กหน้าไหม้มินิ
ชีสเค้ก สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท ตามวิธีการทำ ได้แก่ ชีสเค้กแบบอบ และชีสเค้กแบบแช่เย็น
1. ชีสเค้กแบบอบ
ชีสเค้กแบบอบจะมีเนื้อสัมผัสที่แน่นและเนียน ด้วยโครงสร้างของแป้งเป็นหลัก ทำให้เค้กอยู่ตัวได้นอกตู้เย็นโดยไม่ต้องกลัวละลายมากเท่าชีสเค้กแบบไม่อบ
วิธีการทำชีสเค้กแบบอบ คือ การตีครีมชีสให้เนียนที่สุด ระหว่างการตีครีมชีสจนขึ้นฟู ต้องหมั่นปาดก้นอ่างของเครื่องตี เพราะครีมชีสมักเป็นเม็ดไม่แตกตัว เมื่อตีครีมชีสจนขึ้นฟูแล้วจึงใส่ส่วนผสมอื่นๆ เช่น น้ำตาลทราย แป้งข้าวโพด วิปปิ้งครีม ฯลฯ แล้วนำไปใส่ในตัวครัสต์ก่อนจะนำเข้าไปอบ โดยส่วนใหญ่จะอบด้วยอุณหภูมิประมาณ 170 องศาเซลเซียส ใช้เวลา50-60 นาที และเมื่ออบเสร็จแล้ว ให้ทิ้งไว้ในเตา 4 ชั๋วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าเค้กยุบ หลังจากนั้นควรนำชีสเค้กไปพักไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 1 คืน แล้วจึงค่อยแกะออกจากพิมพ์
เมนูแนะนำ : เค้กช็อกโกแลตลาวา
Tip
- ก่อนจะใช้ครีมชีส ควรนำออกจากตู้เย็นมาวางไว้ในอุณหภูมิห้องก่อน เพื่อให้ชีสนุ่มก่อน
- อุณหภูมิในการอบส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 160-200 องศาเซลเซียส ไม่แนะนำให้อบด้วยอุณหภูมิสูงเกินไป เพราะจะทำให้ขนมไหม้ และหน้าของขนมแตกก่อนจะสุก
- การอบชีสเค้กจึงควรใช้วิธีหล่อน้ำ (Water Bath) คือใช้ฟลอยด์ห่อพิมพ์เค้ก และวางตัวพิมพ์บนถาดน้ำ เพราะไอน้ำจะช่วยกระจายความร้อนอย่างทั่วถึง และเพิ่มความชื้นในเตาอบ ทำให้เนื้อเค้กสุกอย่างสม่ำเสมอและไม่แห้ง และสิ่งสำคัญควรใส่น้ำรอไว้ให้ร้อนก่อนเพื่อจะไม่ทำอุณหภูมิในเตาลดลงขณะนำขนมเข้าอบ ที่สำคัญคือตอนหุ้มพิมพ์เค้กต้องหุ้มให้มิดชิด ไม่ให้น้ำเข้าได้
เมนูแนะนำ : เชดด้าชีสเค้ก
2. ชีสเค้กแบบไม่อบ
ชีสเค้กแบบไม่อบ จะมีโครงสร้างเค้กคือใช้เจลาตินเป็นหลัก ทำให้เนื้อเบากว่าแบบอบ ทานง่ายกว่า มีความชุ่มฉ่ำ แต่มีข้อเสียคือต้องเก็บไว้ในตู้เย็นตลอดเวลา และควรรับประทานขณะเย็นจะได้รสชาติที่ดีที่สุด
มีวิธีการทำคล้ายกับมูส คือ จะทำให้นุ่มด้วยการตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟู เบา และส่วนใหญ่จะใช้ไข่แดง โดยมีวิธีการอยู่ 2 แบบ คือ การใช้น้ำเชื่อมร้อนเทใส่ในครีมไข่แดงแล้วรีบคนเร็วๆ หรือการนำส่วนผสมไข่แดงไปตุ๋นและจะมีเจลาตินเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้ชีสเค้กแบบแช่เย็นอยู่ตัว แต่ถ้าใส่มากเกินไปจะทำให้เนื้อเค้กหนืดไม่น่ารับประทาน
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ : ชีสมีกี่ชนิด
Tip
- วิปปิ้งครีมที่ใช้ควรตีให้ขึ้นปานกลาง หรือขึ้นน้อยกว่าการนำไปแต่งหน้าเค้ก เพราะถ้าตีฟูมากเกินไปจะทำให้วิปปิ้งครีมแตกตัวขณะผสมกับส่วนผสมไข่แดง
- การตีวิปปิ้งครีมไม่ให้ฟูมากเกินไป ป้องกันได้ด้วยการนำอ่างที่ตีรองด้วยน้ำแข็ง และวิปปิ้งครีมที่ใช้ควรแช่เย็นไว้ก่อน
- ถ้าในสูตรใช้ไข่แดงปริมาณน้อย ควรใช้อ่างผสมแบบแคบ หรือก้นลึกเพื่อคนส่วนผสมได้ทั่วถึง
เมนูขนมที่น่าสนใจ by Bread at HÖME
เค้กชาเขียวมัทฉะมินิ สไตล์เกาหลี CAKE MATCHA GREEN TEA MINI
เค้กชาเขียวมัทฉะแท้จากญี่ปุ่น หอมกลิ่นมัทฉะอย่างดีจากเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น สลับชั้นด้วยครีมมัทฉะที่หอมนมมากๆ
เค้กช็อกโกแลตลาวา สไตล์มินิ CHOCOLATE LAVA CAKE
เค้กช็อกโกแลตลาวา เนื้อเค้กเป็นสปันจ์เนย (เนื้อเค้กมีส่วนผสมของเมล็ดวนิลาแท้) ครีมสดแท้ ไร้สารเสริม ไม่มีไขมันทรานส์ ใช้เทคนิคญี่ปุ่นในการทำตัวเค้ก ใช้สตอเบอรี่เกาหลี
เค้กช็อกโกแลต 1 ปอนด์ เนื้อบัตเตอร์ครีมใช้เนยแท้ ช็อกโกแลตแท้ โกโก้แท้ CHOCOLATE CAKE 1/2 ปอนด์ ฿590 1 ปอนด์ ฿890 2ปอนด์ ฿1190
เค้กช็อกโกแลต เนื้อเค้กเป็นบัตเตอร์ผสมแป้งอัลมอลด์ บัตเตอร์ครีมใช้เนยแท้ ช็อกแท้ โกโก้แท้
เค้กแต่งงาน เค้กดอกไม้กินได้ วิปครีมวนิลา ครีมช็อกโกแลต มินิมอล สวย ๆ หรู ๆ กี่ปอนด์ สั่งได้
เค้กแต่งงาน เค้กดอกไม้กินได้ วิปครีมวนิลา ครีมช็อกโกแลต มินิมอล สวย ๆ หรู ๆ
เค้กลูกพีชสด สอดไส้ด้วยซอสลูกพีชในน้ำเชื่อม แต่งหน้าด้วยลูกพีชสด สดชื่น ถูกใจ PEACH CAKE 1/2 ปอนด์ ฿590 1 ปอนด์ ฿890 2 ปอนด์ ฿1190 [ผลไม้ตามฤดูกาล]
เค้กลูกพีชครีมสด หน้านิ่มลาวา หอมกลิ่นลูกพีช หวานน้อย มาพร้อมครีมสด นุ่ม ละลายในปาก
เค้กการ์ตูน 1 ปอนด์ บัตเตอร์ครีมหรือครีมสด หอมนุ่ม ละลายในปาก สามารถเลือกเค้กตัวการ์ตูนน่ารักๆ ได้ตามใจ CAKE CARTOON
เค้กการ์ตูน บัตเตอร์ครีมหรือครีมสด หอมนุ่ม ละลายในปาก สามารถเลือกเค้กโมเดลน่ารักๆ
เค้กช็อกโกแลตคาราเมลแมคคาเดเมีย CHOCOLATE CARAMEL MACADAMIA ถั่วเน้นๆ หวานน้อย กรุบกรับทุกคำ
เค้กช็อกโกแลตคาราเมลแมคคาเดเมีย ราดหน้าด้วยซอสคาราเมลหอมๆหวานๆ พร้อมกับความมันกรุบกรอบของแมคคาเดเมียเต็มๆเม็ด
เค้กขวดเหล้าช็อกโกแลต 1 ปอนด์ วิปครีมแท้ สอดไส้ซอสช็อกโกแลตเข้มข้น ALCOHOL CHOCOLATE CAKE ฿1290
เค้กขวดเหล้าช็อกโกแลตแท้ เนื้อเค้กเป็นบัตเตอร์ผสมแป้งอัลมอลด์ บัตเตอร์ครีมใช้เนยแท้ ช็อกแท้ โกโก้แท้