แจก 3 เมนูสูตรเค้กส้ม หน้านิ่ม เนื้อฟู ซอสส้มหวานอมเปรี้ยวกำลังดี

วันนี้แอดมินก็มีแจก 3 เมนูสูตรเค้กส้มหน้านิ่มในตำนานมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ เค้กส้มเนื้อนุ่มละมุน เปรี้ยวหวานโดนใจ ที่ไม่ชอบเค้กครีมที่หวานเลี่ยนเกินไป และนำผลไม้รสหวานซ่อนเปรี้ยวอย่าง ส้ม มาเป็นส่วนประกอบหลัก โดยเฉพาะส้มที่มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ และให้รสที่เปรี้ยวหวานอย่างลง มันจึงกลายเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มักจะนำมาใช้คู่กับของหวานเป็นประจำค่ะ ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้ว เราไปชมส่วนผสมและวิธีทำเมนูนี้กันได้เลยคะ

แสดงทั้งหมด 12 ผลลัพท์

แนะนำเมนู “เค้กสัม” ลายเส้น สไตล์ Bread at HÖME ของทางร้านเรา


สารบัญ

@bread_at_home 💁🏻‍♀️ปิดจ๊อบ!!! วันเสาร์มันตึงมาก😂 #เค้กคู่ #เค้กวันเกิด #เค้กมินิมอล #เค้ก #เค้กสวยสวย #เค้กโฮมเมด #cake #สั่งเค้กวันเกิด #มินิมอลเค้ก #happybirthday #เค้กผลไม้สด #tiktokfood #tiktokทําอาหาร #goodfood #เปิดการมองเห็น #เปิดการมองเห็นหน่อยย😝 #breadatHÖME ♬ กาลครั้งนึง - JUNENOM

เค้กส้ม จัดเป็น เค้กผลไม้ ชนิดหนึ่ง ที่มีรสชาติ หวานอมเปรี้ยว มีหน้าตา การตกแต่ง ด้วยเนื้อส้ม รวมถึง ยังมี ความหอม ของกลิ่นส้ม และ เนื้อเค้ก ที่นุ่ม ละมุน อีกทั้ง ประโยชน์ ของส้ม ยังอุดม ไปด้วย วิตามิน ชนิดต่าง ๆ ซึ่งมีประโยชน์ ต่อร่างกาย อย่างมาก

แนะนำ : เค้กส้มปอนด์

ประโยชน์ของส้ม

ส้ม เป็นผลไม้ที่คนไทยนิยมทานกันเป็นอันดับต้นๆ อีกชนิดเลยก็ว่าได้ ด้วยรสเปรี้ยวอมหวาน ทานเปล่าๆ ก็อร่อย หรือนำมาทำเป็นน้ำผลไม้ดื่มก็สดชื่นไม่แพ้กัน นอกจากรสชาติที่อร่อยถูกปากคนไทยแล้ว ส้มยังเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และมีประโยชน์ด้านอื่นอีกมากมาย จึงเรียกได้ว่าเป็นผลไม้สารพัดประโยชน์อีกชนิดหนึ่งเลย

คุณค่าทางโภชนาการของส้ม

ส้มเขียวหวานในปริมาณ 100 กรัม ให้คุณค่าทางสารอาหาร ดังนี้

  • พลังงาน 56 กิโลแคลอรี
  • น้ำ 86 กรัม
  • โปรตีน 1.1 กรัม
  • ไขมัน 0.1 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 12.6 กรัม
  •  ใยอาหาร 1.8 กรัม
  • เถ้า 0.6 กรัม
  • โซเดียม 3 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 190 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม
  • แคลเซียม 21 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม
  • เหล็ก 0.09 มิลลิกรัม
  • สังกะสี 0.14 มิลลิกรัม
  • เบต้าแคโรทีน 62 ไมโครกรัม
  • วิตามินซี 20 มิลลิกรัม
  • น้ำตาล 11 กรัม

บทความที่เกี่ยวข้อง : ประโยชน์ของส้ม

18 ประโยชน์ของส้มเพื่อสุขภาพที่ดี

เค้กส้ม ที่มีผลไม้ ที่หลายๆ คน ชื่นชอบนั้น มีวิตามิน C, วิตามิน A ( เบตาแคโรทีน ), วิตามิน B, วิตามิน D, แร่ธาตุแคลเซียม, แร่ธาตุโพแทสเซียม, แร่ธาตุฟอสฟอรัส, แร่ธาตุเหล็ก และ คอลลาเจน นอกเหนือจากนี้ ยังมี ใยอาหาร ที่จะช่วย ในระบบ การขับถ่าย อีกด้วย สำหรับ สรรพคุณ ประโยชน์ ของส้ม มีดังต่อไปนี้

  1. ส้ม ช่วยรักษา เลือดออก ตามไรฟัน ช่วยล้าง สารพิษ ภายใน ร่างกาย ด้วยสาร ต่อต้าน อนุมูลอิสระ
  2. ส้ม มีสารต่อต้าน อนุมูลอิสระ ที่มากมาย จึงช่วย ในการ ชะลอวัยได้
  3. ส้ม มีคุณสมบัติ ในการ ช่วยสร้าง คอลลาเจน จึงทำให้ ช่วยลดเลือน หรือ ช่วยชะลอ ริ้วรอย แห่งวัยได้
  4. ส้ม ช่วยบำรุง ผิวพรรณ ให้เปล่งปลั่ง ดูสดใส
  5. ส้ม ช่วยให้ ผิวพรรณ มีสุขภาพดี ไม่แห้งกร้าน
  6. ส้ม ช่วยบำรุง สายตา ช่วยป้องกัน การเกิด โรคต้อกระจก เพราะว่า ส้มมี วิตามิน C
  7. ส้ม ช่วยเสริมสร้าง กระดูก ให้แข็งแรง ด้วยแร่ธาตุ แคลเซียม และ วิตามิน D จากส้ม
  8. ส้ม ช่วยลด สภาวะ ความเครียด ช่วยให้ ผ่อนคลายได้
  9. ส้ม ช่วยเสริมสร้าง ภูมิคุ้มกัน ให้กับ ร่างกาย ให้มี สุขภาพ ร่างกาย ที่แข็งแรง
  10. ส้ม ช่วยป้องกัน การเกิด โรคหลอดเลือด หัวใจตีบ และ โรคหัวใจได้
  11. ส้ม ช่วยใน เรื่องของ การขับถ่าย เพราะส้ม มีกากใย ที่สูง
  12. ส้ม ช่วยลด โอกาส ในการเกิด โรคมะเร็ง ที่ปาก กล่องเสียง และ กระเพาะ
  13. ส้ม ช่วยป้องกัน การเป็น อัมพาต หากเรา ทานผลไม้ ตระกูลส้ม อย่างเป็นประจำ
  14. ส้ม มีสารฟลาโวนอยด์ ที่จะช่วย ป้องกัน การอักเสบ และ เลือดที่จับตัว กันเป็นก้อน
  15. ส้ม มีสารเบตาแคโรทีน ที่ช่วยชะลอ ความเสื่อมของ เส้นผม เล็บ และ ผิวพรรณ อีกทั้ง ยังช่วยให้ ผนังหลอดเลือด เส้นเลือดฝอย มีความ แข็งแรง
  16. ส้ม ช่วยในการ สมานแผล อย่างเช่น แผลไฟไหม้ ให้หายดี มากยิ่งขึ้น
  17. เปลือกส้ม จะมีน้ำมัน หอมระเหย ที่จะช่วย แก้อาการ วิงเวียน ศีรษะ และ ช่วยเป็น ยาระบาย แบบอ่อน ๆ
  18. เปลือกส้ม มีสารช่วย ลดคอเลสเตอรอล ช่วยเรื่อง ปรับระดับ น้ำตาล ภายในเลือด และ ช่วยกรอง สารพิษ ภายในตับ ได้อีกด้วย
เค้กส้มวันเกิดแบบปอนด์

ประวัติของเค้กส้มในตำนาน

ที่มาของ 'เค้กส้ม' ในตำนาน  ราว 15-16 ปีก่อน  ผู้เขียนมีจุดเริ่มต้นจากเว็บไซต์พันทิปในสังคมทำอาหารและขนม  ในแต่ละวันจะมีการโพสต์กระทู้สนทนาเรื่องอาหารและขนมที่ตัวเองทำ  มีการตอบโต้สนทนากันในกระทู้  ในยุคนั้นสนุกสนานกับการเข้ามานั่งอ่านกระทู้ของเพื่อนสมาชิก  ได้มิตรภาพ  ได้ความรู้  หลายคนได้หัดทำขนมจากที่นั่น  รวมถึงเค้กส้มในตำนานนี้ด้วย 

เค้กส้ม ในตำนานเกิดจากการรวมสูตรของเนื้อเค้กแบบ เนื้อสปันจ์  ที่ใส่สารเสริม คุณแหม่ม เทียร่า เป็นคนนำมาเผยแพร่  ส่วนหน้าเค้กนั้นน้องจอย จูนู ได้นำมาเผยแพร่  และมีคนทำตามกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน  แต่มีการปรับเปลี่ยนสูตรกันไปบ้างเพื่อให้ได้ในแบบที่ชอบ  จนบางคนไม่รู้ที่มาที่ไปของเค้กส้มในตำนานเลยก็มี

เค้กส้มในตำนานในยุคนั้น  เนื้อเค้กมีความนุ่ม  ชุ่มชื้น  ไม่แห้ง  เป็นเค้กที่มีการเอาอิมัลซิไฟเออร์มาใส่ในขั้นตอนการตีเค้ก  เป็นความแปลกใหม่สำหรับคนในยุคนั้นมาก  แรก ๆ ที่ทำจับหลักไม่ได้เลย  ดีบ้าง  เสียบ้าง  เพราะทำตามสูตรและขั้นตอนที่มีในมือ  แต่ยังคิดวิเคราะห์ไม่ได้  ต้องตีไข่กับน้ำตาลแค่ไหน  ผลจึงออกมาดีที่สุด  เนยละลายต้องร้อนแค่ไหนถึงจะเพียงพอในการใส่เค้ก

เคล็ดเล็กเคล็ดน้อย ของการทานเค้กส้มให้อร่อยที่สุด

เค้กส้ม เมนูเบเกอรี่ ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะเป็นเค้กที่ปราศจากเนื้อครีม จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำตาล หรือกำลังลดน้ำหนัก และไม่ชอบรับประทานครีมที่มีรสชาติหวานเลี่ยนจนเกินไป  เนื้อเค้กราดซอสส้ม ฉ่ำๆ ยิ่งนำมาแช่เย็นแล้วยิ่งทานแล้วฟินชื่นใจ จนกลายเป็นที่โปรดปรานของใครหลายๆคน 

ส้ม ผลไม้มงคล ดีต่อสุขภาพ อีกหนึ่งผลไม้มงคลประจำเทศกาลตรุษจีน ผลไม้รสเปรี้ยวอมหวาน วิตามินซีสูง อีกทั้งยังมีแคลเซียม โพแทสเซียม และไฟเบอร์ เพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย ส้มนอกจากจะเป็นผลไม้ที่สื่อถึงความโชคดีแล้ว ยังดีต่อสุขภาพของเราอีกด้วย รับประทานส้มแล้วดีต่อร่างกายอย่างไร?

  • ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย
  • ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
  • อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด
  • ผิวมีสุขภาพดี และเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว
  • กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
  • ช่วยบำรุงสายตา
  • มีกากใยสูง ช่วยระบบขับถ่าย

ส่วนผสมหลักและขั้นตอนในการทำและแต่งหน้าเค้กส้มในตำนาน

เค้กเนื้อนุ่มละมุนสลับชั้นด้วยไส้มะพร้าวอ่อนที่เคี่ยวน้ำมะพร้าวน้ำหอมกับเนื้อมะพร้าวเข้าด้วยกัน สิ่งสำคัญของเค้กอยู่ที่เนื้อและน้ำมะพร้าว เนื้อมะพร้าวต้องเป็นเนื้อมะพร้าวน้ำหอมที่อ่อนมากๆ จึงจะเข้ากันดีกับเนื้อเค้ก

ส่วนผสมตัวเค้กสำหรับเนื้อเค้ก

  • แป้งเค้ก 1 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลทราย 40 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • ไข่แดง 5 ฟอง
  • น้ำมันรำข้าว 65 กรัม
  • นมข้นจืด 40 กรัม
  • น้ำส้ม 65 กรัม 
  • เกลือ ¼ ช้อนชา 
  • กลิ่นวนิลา 2 ช้อนชา 
  • ไข่ขาว 5 ฟอง
  • ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนชา 
  • น้ำตาลทราย 70 กรัม

ส่วนผสมเค้กส้มสำหรับซอสส้มและใบส้ม

  • น้ำเปล่า 1 ½ ถ้วยตวง 
  • น้ำส้มเข้มข้น 150 กรัม 
  • น้ำตาลทราย 100 กรัม 
  • แป้งกวนไส้ 5 ช้อนโต๊ะ 
  • เนยสดเค็ม 35 กรัม 
  • สีผสมอาหารสีส้ม food
  • ใบต้นแก้ว สำหรับตกแต่ง

 

 
 

วิธีการทำเค้กส้มในตำนาน

STEP 1 อบเค้กส้ม

  1. ผสมไข่แดง กลิ่นวนิลา น้ำตาลทราย เกลือ คนให้เข้ากัน ตามด้วยนมข้นจืด น้ำส้ม ผสมให้เข้ากัน
  2. ร่อนแป้งและผงฟู ใส่ลงชามผสมไข่แดง คนให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่น้ำมัน ผสมให้เข้ากัน พักไว้
  3. ตีไข่ขาวและ ครีมออฟทารทาร์ ให้ขึ้นฟู ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทราย ตีจนไข่ขาวตั้งยอดแข็ง
  4. นำไข่ขาวที่ตีให้ฟู ผสมกับ ส่วนของไข่แดง ผสมให้เข้ากัน หลังจากนั้นเทใส่พิมพ์
  5. นำเข้าอบไฟอุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส 15 - 20 นาที อบให้เค้กสุก นำออกจากเตา
    แล้วคว่ำออกจากพิมพ์ เตรียมไว้

TIPS ทยอยใส่น้ำตาล ช่วยให้ไข่ขาวขึ้นฟู

  • แบ่งผสมไข่ขาวเป็น 3 ส่วน ช่วยให้เค้กฟู
  • นำเค้กออกจากพิมพ์ ขณะยังอุ่น ช่วยให้เค้กเนื้อเนียน เป็นรูปส้มสวยงาม

STEP 2 เตรียมใบส้ม และทำซอสส้ม

  1. นำใบแก้วมาตัดให้ขนาดเล็กลง พอดีกับเค้กลูกส้ม เตรียมไว้
  2. ตั้งหม้อ เปิดไฟ ใส่น้ำเปล่า น้ำส้มเข้มข้น น้ำตาลทราย แป้งกวนไส้ กวนให้ไส้ข้น ปิดไฟ
  3. ใส่เนยสดเค็ม คนให้เนยละลาย ตามด้วยสีส้มเล็กน้อย คนให้เข้ากัน เตรียมไว้

เมนูแนะนำ : เค้กส้มลาวา

STEP 3 : ประกอบร่าง แต่งหน้าพร้อมจัดเสริฟ์

  1. ราดซอสส้ม บนเค้กที่อบเตรียมไว้
  2. นำไปแช่เย็นให้ซอสส้มเซตตัว หลังจากนั้นตกแต่งด้วยใบแก้ว ที่ตัดเตรียมไว้ พร้อมจัดเสิร์ฟ

TIPS : ราดซอสขณะยังอุ่น ทำให้ซอสส้มเงาสวย

**เคล็ดลับแนะนำทำเค้กส้มให้สวยงาม

  • ร่อนแป้งเค้กและผงฟู ก่อนผสมกับไข่แดง ช่วยให้เค้กเนื้อเนียนนุ่มขึ้น
  • ตีไข่ขาวให้ตั้งยอดแข็ง ทำให้เนื้อเค้กฟูสวยงาม
  • ราดซอสส้มขณะอุ่น ทำให้เงา สวยงาม
 
เค้กส้มลาวา

แจกสูตรเค้กส้มลาวา

Bread at HOME ของเรานั้น ได้ทำเค้กส้มลาวา พร้อมเสิร์ฟแล้วนะคะ เมนูเค้กหวานหอม เนื้อเค้กเบาฟูนุ่มลิ้น กินพร้อมกับซอสส้ม ชุ่มฉ่ำกับน้ำส้มเข้มข้น ยิ่งกินกับชาร้อน ๆ รับรอง ฟินจนไม่อยากวางช้อนแน่นอนค่ะ ยิ่งถ้าทำให้ญาติผู้ใหญ่ รับรองว่าพวกท่านจะรักเอ็นดูเราไปตลอดแน่นอนค่ะ

เนื้อเค้กอร่อย ๆ หน้าเค้กสวย ๆ เนี๊ยบ ๆ ช่วยส่งเสริมให้ขายเค้กได้ราคาสูงขึ้น หน้าตาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ประมาณนั้นค่ะ ลองนึกถึงว่าเวลาเราไปเดินดูตามตู้เค้กในห้างที่เรียงรายกันหลายตู้ ก้อนนี้สวย ก้อนนี้ไม่งาม เรายังชอบสวย ๆ งาม ๆ เลยค่ะ แล้วถ้าพ่วงความอร่อยที่เป็นทุนเดิมอยู่ด้วย ลูกค้าต้องกลับมาซื้ออีกแน่นอนเพราะประทับใจในคุณภาพ

ส่วนผสมเค้กส้มลาวา

  • แป้งเค้ก 50 กรัม
  • น้ำตาลทราย 50 กรัม
  • ผงฟู 1/2 ช้อนชา
  • ไข่ไก่เบอร์ 3 = 3 ฟอง
  • น้ำ 30 กรัม
  • น้ำมันรำข้าว 40 กรัม
  • กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
  • sp 10 กรัม

ส่วนผสมซอสส้ม

  • น้ำส้มเข้มข้น
  • 90 กรัม Concentrated orange juice
  • 90 g น้ำเปล่า
  • 370 กรัม Water
  • 370 g น้ำตาลทราย
  • 90 กรัม Sugar
  • 90 g แป้งกวนใส้
  • 20 กรัม Corn flour
  • 20 g เนยสดจืด
  • 25 กรัม Butter

วิธีการทำเค้กส้มวาลา

  1. เตรียมเนื้อเค้กที่อบเสร็จแล้ว  นำออกจากพิมพ์  ใช้มีดเล่มเล็ก ๆ เกลาผิวเค้กที่สีเข้ม ๆ ออก  โดยมากแม่หลิ่มใช้ด้านหน้าเค้กที่มีความโค้งมนหงายขึ้น  แต่เปลือกสีเค้กเข้มต้องเลาะทิ้งนะคะ  ไม่ราดหน้าไปทั้งเปลือกเค้กสีเข้ม ๆ  จะทำให้เค้กสีสันไม่สวยงามค่ะ
  2. แบ่งเค้กให้เป็นชั้นตามต้องการ  สามชั้น  สองชั้น  แล้วแต่ความสูงของเค้กที่ทำได้  แม่หลิ่มแบ่งได้สามชั้นนะคะ  เตรียมไว้ให้พร้อม  หากทิ้งระยะเวลานานกว่าจะราดเค้กให้หากล่องใส่ไว้กันเนื้อเค้กถูกลมแล้วเค้กแห้ง  สำหรับขั้นตอนการแบ่งชั้นเค้กแม่หลิ่มขอไปเขียนใหม่เรื่องนี้โดยเฉพาะครั้งต่อ ๆ ไปค่ะ
  3. กวนหน้าส้ม  นำส่วนผสมทุกอย่าง (ยกเว้นเนยสด) ใส่หม้อ  ตั้งไฟกลางมาทางอ่อน  กวนไปเรื่อย ๆ จนยกตะกร้อมือแล้วมีรอยตะกร้อมือจาง ๆ จึงยกลงจากเตา  ขั้นตอนการกวนให้กวนเรื่อย ๆ ช้า ๆ แต่สม่ำเสมอ  หากกวนแรงไปฟองอากาศจะเข้าไปในซอสส้มเยอะ  ทำให้เกิดฟองอากาศอันไม่พึงประสงค์
  4. ยกหม้อลงจากเตาแล้วใส่เนยสด  คนเบา ๆ ให้เนยสดละลาย  คงการกวนเบา ๆ สม่ำเสมอเช่นเคย  ไม่ต้องใจร้อนคนไว ๆ ค่ะ  เมื่อเนยสดละลายหมดแล้วคนต่ออีกสักพักให้ซอสพออุ่น ๆ จนกว่าจะราดหน้าเค้ก  หากไม่คนและทิ้งระยะเวลาไว้นานหน้าซอสส้มจะเย็นตัวลงและเกิดผิว  ทำให้เป็นลิ่ม ๆ เมื่อเรานำไปราดเค้ก  หากว่าปัญหานั้นเกิดขึ้นแล้ว  แม่หลิ่มแนะนำว่าให้กรองซอสส้มด้วยกระชอนตาห่างก่อนนำมาราดนะคะ  ทุกอย่างจะเหมือนเดิม  อาจสูญเสียซอสส้มบางส่วนที่ติดกระชอนบ้าง  แต่ดีกว่าได้หน้าเค้กส้มแบบขรุขระค่ะ  ปกติแล้วแม่หลิ่มคนให้อุ่นไม่นานค่ะ  แค่ประมาณ 5 นาทีก็นำมาราดแล้ว  ไม่ได้รอเย็นสนิทนะคะ
  5. นำเค้กวางบนแท่นหมุนเค้ก  ตักหน้าซอสส้มที่กวนไว้ลงไป  ดูปริมาณให้เหมาะสม  ถ้ามากไปจนล้นเค้กจะเลื่อนไหลได้ง่ายถ้าซอสไม่ข้นพอ  แม่หลิ่มจึงเน้นว่ากวนให้เห็นรอยตะกร้อมือจาง ๆ แล้วถึงปิดเตา  นั่นหมายถึงความข้นของซอสที่นำมาราดหน้าเค้กแล้วไม่เลื่อนไหล  หรือไหลลงไปนองกับแผ่นรองเค้ก  ถ้าเป็นเค้กขนาด 2 ปอนด์  ระหว่างชั้นเค้กตักซอสส้มประมาณ 3 ช้อนเต็ม ๆ   ถ้าเป็นเค้กขนาด 3 ปอนด์  ระหว่างชั้นเค้กตักซอสส้มประมาณ 4 ช้อนเต็ม ๆ
  6. ใช้ช้อนเกลี่ยซอสส้มให้ทั่วชิ้นเค้ก  เว้นขอบข้างไว้ประมาณ 1 เซนติเมตร  คือไม่ต้องให้ชิดขอบเลย  เดี๋ยวเราเอาเค้กอีกชั้นไปซ้อนซอสบางส่วนจะถูกกดทับและไหลไปเองค่ะ  เวลาใช้ช้อนเกลี่ยซอสเค้กนั้นเบา ๆ ก็พอแล้ว  ไม่ต้องออกแรงมาก  หากออกแรงมากไปเนื้อเค้กบางส่วนจะติดมาที่หลังช้อนเค้ก  บางครั้งเราไม่ได้คิดที่จะหงายดูแล้วเอาช้อนคันเดิมไปตักซอสส้มในหม้อ  เศษเค้กจะติดไปในซอสส้มค่ะ  ก่อนที่จะตักซอสส้มมาราดในชั้นถัด ๆ ไป  ให้ใช้ตะกร้อมือคนซอสส้มในหม้อก่อนทุกครั้ง  เพื่อป้องกันลิ่มที่อาจเกิดขึ้นได้  อย่าลืมว่าคนเบา ๆ เสมอนะคะ

  7. นำเค้กชั้นบนมาวางซ้อนลงไป (แม่หลิ่มขอเขียนขยายความเรื่องการซ้อนชั้นเค้กในครั้งต่อไปค่ะ)  เมื่อนำชั้นเค้กมาวางซ้อนแล้วใช้มือกดพอให้ประกบกันดี  อย่าแรงมาก  เนื้อเค้กอาจแตกหักได้ค่ะ  อย่าลืมดูให้การซ้อนเค้กพอเหมาะพอดีกัน  ไม่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง  ให้สมดุลย์เสมอกันในทุก ๆ ด้าน

  8. หากเนื้อเค้กเป็น 3 ชั้น  ก็ราดระหว่างชั้นเค้กเหมือนเดิมค่ะ  จากนั้นวางเค้กชั้นบนสุดลงไป  ใช้มือประกบเบา ๆ พอให้แน่น

  9. ลองสังเกตดูว่าเมื่อเราประกอบเค้กทุกชั้นเสร็จแล้ว  จะมีเศษเค้กบางส่วนหลุดรุ่ยกองอยู่บนกระดาษรองเค้ก  แม่หลิ่มเรียกว่า “ขุยเค้ก” นะคะ  ใช้แปรงหรือมือปัดเศษเค้กออกให้หมด  แม่หลิ่มแนะนำให้ใช้แปรงคล้ายแปรงทาสีปัด  แป๊บเดียวจะเรียบร้อยค่ะ  แม่หลิ่มเองมี 2 อัน  อันเล็ก  อันใหญ่

  10. ก่อนที่จะราดหน้าซอสส้มด้านบนสุดก็เหมือนเดิมค่ะ  ใช้ตะกร้อมือคนเบา ๆ ให้ซอสไหลตัวดี  คือข้นแต่ยังต้องไหลตัวได้  จะเป็นผลดีหลายอย่างมากมาย  ซอสไม่ไหลนอง  วางผลไม้แล้วไม่ค่อยลื่น

  11. ดูความสมดุลย์ของเค้กอีกครั้งก่อนราด  คือชั้นเค้กเสมอกันดีไหม  มีชิ้นไหนเลื่อนไปทางซ้ายทางขวา  ให้จัดการให้เข้าที่เข้าทางให้เรียบร้อย

  12. ราดหน้าซอสส้มชั้นบนลงไป  แม่หลิ่มไม่ได้ใช้วิธียกหม้อแล้วเท  แต่ใช้วิธีใช้ช้อนตักนับช้อนเอาค่ะ  ทำบ่อย ๆ จะชินไปเองว่าแค่ไหนพอ  ประมาณ 10-11 ช้อนสำหรับเค้ก 3 ปอนด์

  13. ใช้ช้อนเกลี่ยซอสส้มให้ทั่ว  ในชั้นบนสุดนี้เกลี่ยให้ซอสส้มบางส่วนไหลมาด้านข้างเลย  ซอสส่วนเกินจะไหลมาด้านข้างเค้กเอง  อาจจะไม่คลุมด้านข้างเค้กทั้งหมด  เป็นเรื่องปกติ  หากคลุมหมดส่วนมากจะนองไปที่แผ่นรองเค้ก

  14. ใช้มือซ้ายหมุนแท่นหมุนเค้กในขณะที่มือขวาจับสปาตุลาร์อยู่กับที่ในจุดเดียวตลอด  วางสปาตูลาร์ตั้งฉากกับด้านข้างเค้ก  ให้มือซ้ายทำงานส่วนมือขวาอยู่กับที่

  15. มือซ้ายหมุนแท่นหมุนและมือขวาเก็บรายละเอียดซอสส่วนเกินไปด้านข้างเค้กให้หมด  หมุนสัก 2 รอบซอสจะเคลือบทั่วกันแล้วค่ะ

  16. ใช้กระดาษทิชชูแผ่นรองเค้กให้สะอาดแล้วนำเค้กไปแช่เย็นช่องธรรมดา 2-3 ชั่วโมงให้ซอสส้มเซ็ทตัวดี  ด้านในจะเป็นส่วนที่เซ็ทช้ากว่าด้านนอกค่ะ

เค้กโบราณ

แจกสูตรเค้กโบราณตำนานแห่งยุค 90 

แต่วันนี้เรามีสูตรที่เนื้อเค้ก นุ่ม!! แต่ก็ยังควบคุมต้นทุนไม่ให้แพงเกินกว่าราคาตลาดมากนะ และก็ต้องบอกก่อนว่าจะหวังให้เค้กสูตรนี้ชุ่มฉ่ำ ละลายในปาก เหมือนเค้กราคาสูงๆ ก็คงจะไม่ถึงขั้นนั้น แต่รับรองว่าไม่แห้งจนฝืดคอแน่นอน

เนื้อเค้กของเราในวันนี้จะใช้เป็น ‘เนื้อสปันจ์’ ที่มีไข่เป็นส่วนผสมหลัก ในการทำเค้กชนิดนี้ และเรามีตัวช่วยอย่าง SP ที่เป็นสารเสริมในการช่วยตีไข่ให้ขึ้นฟู ไม่ยุบตัวง่าย และอยู่ตัวได้นาน เหมาะกับสายเบเกอร์รีที่ต้องตีส่วนผสมเค้กไว้ทีละเยอะๆ แล้วต้องทยอยเอาเข้าอบ สารเสริม SP ถือว่าเป็นตัวช่วยร้านเบเกอร์รีหลายๆ ร้าน โดยวิธีใช้ก็สามารถใส่ลงไปในโถตีได้เลย หรือปาดไว้ที่หัวตีก็ได้ (เพื่อให้ SP กระจายทั่ว) และถ้าถามว่าทำกินที่บ้านไม่ใช้สารเสริมได้ไหม ได้! แต่ข้อควรระวังคือเมื่อผสมส่วนผสมเสร็จแล้วต้องนำเข้าอบทันที ไข่ไก่ที่ใช้ต้องมั่นใจว่าสดจริง ตีขึ้นฟูได้ดี

อ่านเพิ่มเติม : เนื้อเค้กชิฟฟ่อน

ส่วนผสมและวิธีทำเค้กโบราณ

วิธีทำเค้กโบราณ ง่ายมาก ๆ โดยจะแยกออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันคือ ตัวเนื้อเค้ก หน้าแยมส้ม และ บัตเตอร์ครีม ซึ่งตัวบัตเตอร์ครีมนั้น ทำเพื่อตกแต่งเป็นรูปดอกไม้ด้านบน สามารถใส่สีผสมอาหารได้ตามชอบ เพื่อให้มีสีสันตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น สีส้ม สีเขียว สีม่วง สีชมพู ฯลฯ แล้วบีบเป็นลวดลายอีกชั้นหนึ่งด้านนอก เพื่อให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น

วัตถุดิบสำหรับเค้ก

  • เนยสดละลาย 140 กรัม 
  • แป้งเค้กพัดโบก 170 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา 
  • กลิ่นวนิลา 2 ช้อนชา
  • ไข่ไก่ 5 ฟอง
  • น้ำตาล 1 ถ้วยตวง 
  • นมข้นจืด ½ ถ้วยตวง
  • SP 15 กรัม 

วัตถุดิบสำหรับแยมเคลือบหน้าเค้ก

  • แยมส้ม 300 กรัม 
  • น้ำส้ม 30 กรัม 
  • เกลือ ¼ ช้อนชา

วัตถุดิบสำหรับบัตเตอร์ครีม

  • เนยสด 150 มิลลิลิตร 
  • แป้งอเนกประสงค์ 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง 
  • กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา 
  • นม ½ ถ้วยตวง

อุปกรณ์ทำเค้กโบราณ

  • ตะกร้อมือ หรือ เครื่องตี
  • พิมพ์คัพเค้ก เบอร์ 3217
  • ถ้วยจีบอะลูมิเนียม หรือ ถ้วยจีบกระดาษ

วิธีทำเค้กโบราณ

  1. เตรียมชามผสม ใส่ไข่ไก่ น้ำตาลทราย นมสด น้ำส้มสายชู กลิ่นวานิลลา เนยละลาย แล้วใช้ตะกร้อมือ หรือ เครื่องตี ตีให้เข้ากัน
  2. ร่อนแป้งเค้กและผงฟูผ่านกระชอนลงไป ตีให้เข้ากัน
  3. เตรียมพิมพ์คัพเค้ก รองด้วยถ้วยจีบให้เรียบร้อย แล้วเทแป้งเค้กลงไป 3/4 ถ้วย เกลี่ยหน้าเค้กให้เรียบ
  4. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ไฟบน – ล่าง เป็นเวลา 20 – 25 นาที เสร็จแล้ว นำมาพักให้เย็นสนิท

วิธีทำหน้าแยมส้ม

  1. ตั้งหม้อ ใส่แยมส้มลงไป แล้วเปิดไฟอ่อน รอให้แยมส้มเริ่มละลายแล้ว กวนให้ละลายดี และ ต้มให้เดือด จนแยมส้มเหลวและข้นดี เสร็จแล้ว ปิดไฟ
  2. เทแยมส้มผ่านกระชอน กรองให้ได้เนื้อละเอียด

วิธีทำบัตเตอร์ครีม

  1. เตรียมชามผสม ใส่น้ำตาลไอซิ่ง ผสมกับ น้ำร้อน คนให้ละลายเข้ากัน จนได้น้ำเชื่อมเนื้อเนียนละเอียด
  2. ตั้งหม้อ ใส่เนยสดลงไป แล้วใช้ตะกร้อมือ หรือ เครื่องตี ตีให้เนยขึ้นฟู
  3. ใส่เนยขาวลงไป ตีให้เข้ากัน จนขึ้นฟู ใช้เวลา 5 – 8 นาที
  4. จากนั้น ใส่น้ำตาลไอซิ่งที่ละลายไว้ลงไป ตีต่ออีก 3 – 5 นาที จนบัตเตอร์ครีมเนื้อครีมข้น ติดตะกร้อมือ
  5. แบ่งบัตเตอร์ครีมออกเป็น 3 ส่วน 1 ส่วนเก็บไว้เป็นกลีบดอกสีขาว อีก 2 ส่วน ผสมกับสีผสมอาหาร สีส้ม สีเขียว ตามชอบ

วิธีประกอบเค้กโบราณ

  1. นำเค้กจุ่มแยมส้มให้เต็มหน้าเค้ก แล้วพักให้แยมส้มเซ็ตตัว ประมาณ 10 – 15 นาที
  2. ตักบัตเตอร์ครีม แต่ละสี ใส่ถุงบีบ ติดหัวบีบเป็นลายแฉก แล้วบีบลงไปเป็นรูปดอกไม้บนหน้าเค้ก ตามชอบ
  3. บีบเป็นลวดลายรอบเค้กให้สวยงาม เป็นอันเสร็จ

เคล็ด[ไม่]ลับความอร่อยของการทำเค้กโบราณ

  • ใช้เนยอุ่นในการผสมเนื้อเค้ก เพื่อป้องกันเค้กยุบ
  • ละลายแป้งกับนมทิ้งไว้ก่อน ป้องกันนมร้อนเกินไปทำให้บัตเตอร์ครีมละลาย
  • นำเค้กแช่เย็นก่อนจัดเสิร์ฟ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการกิน

รู้จัก เค้กโบราณ และ วิธีทำเค้กโบราณ กันไปแล้ว หากใครคิดถึงความทรงจำในวัยเด็ก โดยเฉพาะ ยุค 90 นอกจาก กาแฟดริป แผ่นเสียง หรือ เทปคาสเซ็ต แล้ว เค้กโบราณ ก็ถือเป็นของอย่างหนึ่งที่เราเติบโตมาด้วยกัน ดังนั้น ลองทำเอง แล้วรับประทานดู อาจจะช่วยย้อนความทรงจำดี ๆ ในวัยเด็กให้กลับคืนมา ยามที่เรารู้สึกหมองหม่นได้ไม่มากก็น้อย

เคล็ดลับแนะนำสำหรับทำเค้กส้ม

  • ไข่ที่ใช้ต้องเป็นไข่ในอุณหภูมิห้อง ไม่ใช่ไข่ที่พึ่งนำออกมาจากตู้เย็น จะทำให้ตีขึ้นยาก ส่วน นมและน้ำ สามารถเย็นได้
  • จะต้องอุ่นๆ ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป
  •  5 นาทีนั้น โฟมของไข่จะต้องตั้งยอด และมีความแข็งแรงมากพอที่จะรับน้ำหนักของแป้งที่เราจะใส่ได้ ทดสอบได้โดยการใช้พายปาดส่วนผสมขึ้นมาแล้วหงายพาย ส่วนผสมจะไม่หยด นั่นแสดงว่าใช้ได้ เครื่องตีบางรุ่น อาจจะใช้เวลาตีแค่ 5 นาที แต่บางรุ่นอาจต้องใช้เวลาถึง 8-9 นาที ขึ้นอยู่กับกำลังของเครื่อง และความสดของไข่
  • เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งอุณหภูมิของเนย การคนเนยให้เข้ากับส่วนผสมอื่นๆ และ อุณหภูมิของเตาอบ ถ้าเตาอบอุณหภูมิไม่สม่ำเสมอ ก็อาจเป็นอีก 1 สาเหตุของการที่ทำให้เค้กเป็นไต
  • น้ำส้มเข้มข้นที่ใช้ ถ้าใช้ซันควิก ให้ใช้รสแมนดารินนะคะ สีจะเข้มโดยไม่ต้องใส่สี และรสชาติหอมอร่อยกว่าอีกรสนึงค่ะ