แจกสูตร 4 เมนูเค้กช็อกโกแลต รสชาิตเข้มข้น เอาใจสายช็อกเลิฟเวอร์เป็นที่สุด

วันนี้แอดมินก็มีสูตรเมนูช็อกโกแลตมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ โดยวันนี้แอดมินจะแนะนำให้ถึง 4 เมนูต่างแบบ ต่างสไตส์ สายช็อกเลิฟเวอร์ถูกใจ กับเมนู “เค้กช็อกโกแลต” รสชาติเข้มข้น อร่อยเต็มคำ ของหวานยอดฮิตตลอดกาล ด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่มชุ่มฉ่ำ ละมุนลิ้น รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นผงโกโก้ ช็อกโกแลต รวมถึงดาร์กช็อกโกแลตแท้ 100% ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้ว เราไปชมส่วนผสมและวิธีทำเมนูนี้กันได้เลยคะ

Showing 1–12 of 25 results

แนะนำเมนู “เค้กช็อกโกแลต” ลายเส้น สไตล์ Bread at HÖME ของทางร้านเรา


สารบัญ

เมนูช็อกโกแลต สุดคลาสสิกตลอดกาล เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม เนื้อเค้กนุ่มลิ้นพร้อมหน้านิ่มรสเข้มข้น ถือว่าฮอตที่สุดในบรรดา เมนูขนม ทุกชนิดเลยก็ว่าได้ เนื้อเค้กช็อกโกแลต นุ่มละมุนลิ้นเข้ากันดีกับความเข้มของ ช็อกโกแลตหน้านิ่ม เป็น เบเกอรี่โฮมเมด ที่เหมาะกับทุกเทศกาล ยิ่งแช่เย็นยิ่งอร่อย

เค้กช็อกโกแลต ดูเหมือนว่าทุกวันนี้ ตามร้านคาเฟ่ ร้านกาแฟทั่วไป จะเต็มไปด้วยเค้ก ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่รังสรรค์ออกมา ยั่วน้ำลายผู้ที่ ชื่นชอบรับประทาน “เค้กช็อกโกแลต” ร้านไหน อร่อย ก็จะมีคนตามไปกิน

เค้กช็อกโกแลต

รู้ทำความจักที่มาของช็อกโกแลตกันหน่อย

ช็อกโกแลต (Chocolate) เป็นผลผลิตจากเมล็ดของต้นโกโก้ในเขตร้อน ช็อกโกแลตเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมของของหวานหลากหลายชนิด อาทิ เค้ก ไอศกรีม คุกกี้ พาย หรือลูกอม เป็นต้น ช็อกโกแลตมีรสชาติหวานหอม และเข้มข้น ทำให้หลายคนชอบรับประทานเป็นอย่างมาก ช็อกโกแลตทำมาจากการหมัก คั่ว และบดเมล็ดโกโก้ให้ละเอียด

โดยเมล็ดโกโก้ส่วนใหญ่ที่นำมาทำช็อกโกแลตนั้น จะเป็นเมล็ดที่ได้มาจากต้นโกโก้เขตร้อน ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศเม็กซิโก และอเมริกากลาง ต้นโกโก้ถูกค้นพบโดยชาวอินเดียนแดง และชาวแอซเท็ก (Aztecs) แต่ปัจจุบันได้แพร่กระจาย และปลูกกันไปทั่วเขตร้อน

เนื้อเค้ก ตลอดจนทำเป็นหน้าครีมและไส้ครีม เพื่อเพิ่มสัมผัสและรสชาติ จึงทำให้เป็นหนึ่งในเค้กที่ขายดี และเป็นที่นิยมของคนทุกเพศ ทุกวัย

เข้ากันกับบัตเตอร์ครีมชาเขียวรสเข้มข้น ตัดเลี่ยนด้วยอัลมอนด์อบหอมกรุ่นที่โรยด้านบน เค้กชนิดนี้เก็บได้นานและไม่ต้องแช่ตู้เย็นตลอดเวลา สามารถทำไปให้เพื่อนในงานวันเกิดได้แบบไม่ต้องกลัวเค้กละลาย และรับประกันว่าหากผู้รับเป็นคนที่ชื่นชอบชาเขียวสูตรบัตเตอร์ครีม ซึ่งรสหวานน้อยติดขมนิดๆ และหอมกลิ่นเหล้ารัมที่ผสมอยู่ด้านในต้องชอบใจแน่ๆ

เมล็ดโกโก้สามารถนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น โกโก้ ช็อกโกแลต และเนยโกโก้ ก็ต่างทำมาจากส่วนของเมล็ดโกโก้นั่นเอง สำหรับช็อกโกแลตนั้น เป็นส่วนผสมที่ได้มาจากเมล็ดของฝักถั่วโกโก้ และเนยโกโก้

โดยนำมาผสมกับน้ำตาล และส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อทำให้อยู่ในรูปแบบช็อกโกแลตแท่ง หรือเครื่องดื่มต่าง ๆ ด้วยรสชาติที่อร่อย และหวานมัน ช็อกโกแลตจึงเป็นที่โปรดปรานของคนทั้งทั่วโลก โดยมักจะนำมาเป็นเครื่องดื่มในงานเฉลิมฉลองเทศกาลต่าง ๆ เช่น เทศกาลวาเลนไทน์ เทศกาลคริสต์มาส หรือเทศกาลอีสเตอร์ เป็นต้น

อ่านเพิ่มเติม : ช็อกโกแลตมีกี่ประเภท

ประโยชน์ของช็อกโกแลต

หลายคนอาจคิดว่าช็อกโกแลตมีรสหวาน หากรับประทานในปริมาณที่มาก จะไม่ดีต่อสุขภาพ ในความเป็นจริงแล้วยังมีช็อกโกแลตแบบดาร์กช็อกโกแลตที่เป็นช็อกโกแลตแบบเข้มข้น ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ต่อสุขภาพ นอกจากนี้การรับประทานช็อกโกแลตยังให้ประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากมาย ตัวอย่างเช่น

  • บำรุงหัวใจ
  • บำรุงเลือด
  • ลดการบวมน้ำ
  • ช่วยชะลอความแก่
  • ช่วยลดความเครียด
  • ส่งผลดีต่อลูกในครรภ์
  • บรรเทาอาการก่อนประจำเดือน

อ่านเพิ่มเติม : ประโยชน์ของช็อกโกแลต

แจกสูตรเค้กช็อกโกแลต หวานอร่อย รสชาติเข้มข้น

เมนูเค้กช็อกโกแลต มีหลายสูตรและรสชาติความอร่อยก็ไม่เหมือนกันอย่างเช่น เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม เค้กช็อกโกแลตฟัดจ์ เค้กช็อกโกแลตลาวา หรือเค้กช็อกโกแลตไร้แป้ง ที่เหมาะกับสาว ๆ ที่อยากกินขนมหวานแต่ไม่อยากอ้วน เราก็ได้นำสูตรพร้อมขั้นตอนการทำแบบละเอียดมาให้คุณได้ลองทำทานเองที่บ้าน หรือใครจะทำเป็นเค้กวันเกิดช็อกโกแลตไปฝากเพื่อน ๆ เรามาดูวิธีการทำเค้กช็อกโกแลตกันว่าจะมีขั้นตอนยังไงบ้าง มาดูกัน

อ่านเพิ่มเติม : ประโยชน์ของขนมเค้ก

ส่วนผสมของเค้กช็อกโกแลต

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 2 ถ้วย 
  • ผงวานิลลา 1 1/2 ช้อนชา
  • ผงโกโก้ 3/4 ถ้วย
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
  • โซดาไบคาร์บอเนต 2 ช้อนชา
  • เนยสดอุณหภูมิห้อง 200 กรัม 
  • นมข้นจืด 1 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 3 ฟองใหญ่
  • น้ำกาแฟ 1 ถ้วย (ใช้ผงกาแฟสำเร็จรูป 3 ช้อนชาละลายในน้ำร้อน)
  • ส่วนผสมหน้าเค้กช็อกโกแลตกานาช
  • วิปปิงครีม 1 ถ้วย
  • ช็อกโกแลตแบบกึ่งหวานสับชิ้นเล็ก 250 กรัม (Semi-Sweet Dark Chocolate)

วิธีทำเค้กช็อกโกแลตง่ายๆ

  1. เตรียมถาดอบเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 นิ้ว รองก้นถาดด้วยกระดาษไข เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส
  2. ใส่แป้งสาลี น้ำตาล ผงวานิลลา ผงโกโก้ เกลือ ผงฟู และโซดาไบคาร์บอเนตลงในชามผสม คนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน
  3. ใส่เนยสด นมข้นจืด ไข่ และน้ำกาแฟ ใช้พายคนจนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่ถาด นำเข้าเตาอบประมาณ 1 ชั่วโมง พักไว้ให้เย็น
  4. ทำหน้าเค้กช็อกโกแลตกานาชโดยใส่วิปปิงครีมลงในหม้อเคลือบ ตั้งไฟให้ร้อนเดือดปุดๆ ยกลง เทใส่ช็อกโกแลตสับ คนจนละลายเนื้อเนียนเป็นครีมข้นสีน้ำตาลดำ
  5. วางเค้กไว้บนตะแกรง ราดด้วยช็อกโกแลตกานาช

เมนูแนะนำ : ช็อกโกแลตสตอเบอรี่ช็อตเค้ก

 
เค้กช็อกโกแลตวันเกิด 1 ปอนด์

แจกสูตรเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม

เค้กช็อกโกแลต เป็นเมนูของหวานที่อร่อย และดีต่อลูกรัก อย่างไรก็ตาม การรับประทานเค้กช็อกโกแลตในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อร่างกายของลูก เพราะในช็อกโกแลตนั้น มีน้ำตาลในปริมาณที่สูง จึงอาจส่งผลให้ลูกเกิดภาวะอ้วนตามมาได้ ทางที่ดีควรบริโภคแต่น้อย และเลือกรับประทานเมนูของหวานอื่น ๆ ที่ทำจากผลไม้แทน เพื่อสุขภาพที่ดี

อ่านเพิ่มเติม : เนื้อเค้กยอดนิยม

ส่วนผสม เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม

เค้กช็อกโกแลต

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์280 กรัม
  • ผงโกโก้110 กรัม
  • น้ำตาลทราย220 กรัม
  • น้ำตาลทรายแดง200 กรัม
  • ผงฟู2 ช้อนชา
  • เบกกิ้งโซดา1½ ช้อนชา
  • นมสด250 มิลลิลิตร
  • น้ำมันรำข้าว125 มิลลิลิตร
  • ไข่ไก่2 ฟอง
  • กลิ่นวานิลลา2 ช้อนชา
  • น้ำร้อน250 มิลลิลิตร
  • ครีมออฟทาร์ทาร์

หน้านิ่ม

  • ผงวุ้น1 ช้อนชา
  • นมข้นจืด200+150 กรัม
  • น้ำตาลทราย100 กรัม
  • น้ำตาลทรายแดง100 กรัม
  • ผงโกโก้สีอ่อน50 กรัม
  • แป้งข้าวโพด40 กรัม
  • เนย
เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่มวันเกิด 2p

แจกสูตรเค้กช็อคโกแลตลาวา ใส้เยิ้มดาร์กช็อกทะลัก

เป็นอีกหนึ่งเมนูเค้กที่ถูกใจ สำหรับท่านที่ชื่นชอบช็อคโกแลตเข้มข้น เนื้อเค้กนุ่มหวาน รสชาติหวานหอม รับประทานขณะร้อนๆ มีลาวาช็อคโกแลต ไหลเยิ้มออกมาอร่อยมากค่ะ เสิร์ฟเคียงกับผลไม้ต่างๆตามชอบ ไอศครีม หรือวิปปิ้งครีมหอมอร่อยเข้ากัน ลงตัวที่สุด สูตรของเราจะไม่หวานมาก สามารถปรับเพิ่มลด ความหวานได้ตามชอบค่ะ

เรามีเคล็ดลับคือ ผสมส่วนผสมให้เข้ากันดี แล้วนำไปเข้าเตาอบ อย่าอบนานเกิน เพราะจะไม่เป็นลาวาค่ะ ต้องอบแล้วเสิร์ฟ รับประทานทันทีขณะร้อนๆ มีลาวาช็อคโกแลต ไหลเยิ้มออกมาอร่อยมากค่ะ เสิร์ฟเคียงกับผลไม้ต่างๆตามชอบ ไอศครีม หรือวิปปิ้งครีมหอมอร่อยเข้ากัน หวังว่าทุกท่านคงจะอร่อยถูกใจ กับเค้กช็อคโกแลตลาวา สูตรหอมอร่อยของเราน่ะค่ะ

อ่านเพิ่มเติม : แป้งเค้ก

ส่วนผสมตัวเนื้อเค้กช็อกโกแลต

  • ดาร์กช็อกโกแลต 100 กรัม
  • ผงโกโก้ 3 ช้อนโต๊ะ
  • นมสด 1/3 ถ้วย
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • ไข่ไก่เบอร์ 1 2 ฟอง
  • เนยสดเค็ม  65 กรัม
  • น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์  1/3 ถ้วย
  • ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา

ตัวหน้าเค้กช็อกโกแลต

  • ดาร์กช็อกโกแลต 100 กรัม
  • ผงโกโก้ละลายกับช็อกโกแลต 2 ช้อนโต๊ะ
  • วิปปิงครีม 1/2 ถ้วย
  • ผงโกโก้โรยหน้าตามชอบ

วิธีทำเค้กช็อกโกแลตลาวา

  1. ทำเค้กโดยแยกไข่แดงและไข่ขาว เตรียมไว้
  2. ละลายดาร์กช็อกโกแลตและเนยสดบนน้ำอุ่น คนให้ละลายหมด
  3. ใส่ผงโกโก้ นมสด กลิ่นวานิลลา น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ ไข่แดง คนให้เข้ากัน
  4. ใส่แป้งสาลี คนอีกครั้งให้เข้ากัน พักไว้
  5. ตีไข่ขาวกับครีมออฟทาร์ทาร์ให้เป็นฟอง ใส่น้ำตาลที่เหลือ ตีต่อให้เข้ากันจนเป็นโฟมอยู่ตัว
  6. ผสมกับช็อกโกแลตที่เตรียมไว้ เทใส่พิมพ์สำหรับอบ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เวลา 45 นาที จนสุก ยกออกจากเตาพักไว้ให้เย็น
  7. ทำหน้านิ่มโดยใส่ดาร์กช็อกโกแลตและผงโกโก้ในชามผสม พักไว้ อุ่นวิปปิงครีมให้ร้อนเทลงในชามช็อกโกแลต คนให้ละลายเข้ากันดี
  8. จัดเค้กใส่จาน ราดด้วยช็อกโกแลต โรยผงโกโก้ให้ทั่ว
ช็อกโกแลตลาวา ใส้เยิ้มๆ

แจกสูตรเค้กแบล็คฟอเรส เมนูเอาใจสายดาร์ก

เค้กแบล็คฟอเรส (เค้กในป่าดำ) เป็นเค้กที่นิยมมากๆ มีต้นกำเนิดมาจาก ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมัน ลักษณะของเค้กนั้น จะประกอบไปด้วย ช็อกโกแลต เชอร์รี่ และครีม ที่มีความกลมกล่อมและอร่อยมากๆในเค้กรสชาติหนึ่งเลยทีเดียว

จากต้นตำรับเดิมมาจากประเทศเยอรมัน โดยในส่วนผสมของเค้กชนิดนี้จะมีเหล้าที่ชื่อว่า Kirschwasser สกัดจากเชอร์รี่ ซึ่งจะถูกเพิ่มลงไปเป็นส่วนผสมในเค้ก ฉะนั้นแล้วเค้กจึงไม่สามารถขายได้ตามกฎหมายภายใต้ชื่อ Schwarzwalder Kirschtorte และถูกดัดแปลงใช้วัตถุดิบอื่นในส่วมผสมแทนเหล้านั่นเอง

โดยลักษณะของ เค้กแบล็คฟอเรส จะเป็นเค้กช็อกโกแลตหลายๆชั้นสลับกันกับครีมและเชอร์รี่ (ใช้ได้ทั้งเชอร์รี่สด หรือ แยมเชอรร์รี่ก็ได้) ซึ่งเราก็สามารถพบเห็นเค้กนี้ได้ตามร้านขนม กาแฟ ต่างๆมากมายเลยทีเดียว

อ่านเพิ่มเติม : เค้กโฮมเมด

ส่วนผสมของเค้กแบล็คฟอเรส

เนื้อเค้กแบล็คฟอเรส

  • ผงโกโก้ 20 กรัม
  • น้ำอุ่น 135 กรัม
  • ดาร์กช็อกโกแลตละลาย 85 กรัม
  • ซาวร์ครีม 135 กรัม
  • น้ำมันพืช 82 กรัม
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 280 กรัม
  • เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
  • เกลือป่น 3/4 ช้อนชา
  • เนยสดชนิดจืด 85 กรัม
  • น้ำตาลทรายแดง 135 กรัม
  • น้ำตาลทราย 100 กรัม
  • ไข่แดงไข่ไก่ 2 ฟอง
  • ไข่ไก่ 3 ฟอง

อุปกรณ์จำเป็น: พิมพ์เค้กกลมขนาด 8 นิ้ว จำนวน 3 พิมพ์ กระดาษไข มีดฟันเลื่อย ฐานแต่งเค้ก แปรงเพสทรี สปาตูลา ถุงบีบและหัวบีบหยัก

อ่านเพิ่มเติม : ประโยชน์ของสตรอเบอรี่

เค้กแบล็คฟอเรสต์ 1 ปอนด์

ส่วนผสมของหน้าเค้กแบล็คฟอเรส

ไส้เชอร์รี

  • เชอร์รีดำ 700 กรัม
  • เหล้าเชอร์รี (Kirsh) 30 กรัม

น้ำเชื่อมเหล้าสำหรับทาเค้ก

  • น้ำตาลทราย 40 กรัม
  • น้ำ 40 กรัม
  • เหล้าเชอร์รี (Kirsh) 30 กรัม

ครีมแต่งหน้าเค้ก

  • วิปปิ้งครีม 500 กรัม
  • น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม
  • เหล้าเชอร์รี (Kirsh) 15 กรัม

ช็อกโกแลตสำหรับเคลือบหน้าเค้ก

  • ดาร์กช็อกโกแลต 50 กรัม
  • วิปปิ้งครีม

 

วิธีทำเค้กแบล็คฟอเรส

  1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ปูกระดาษไขด้านล่างพิมพ์ทั้ง 3 อัน เตรียมไว้
  2. ละลายผงโกโก้กับน้ำอุ่นให้เข้ากันจนโกโก้ไม่เป็นเม็ด พักไว้ ละลายช็อกโกแลตในไมโครเวฟแล้วใส่ลงในน้ำโกโก้ คนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วจึงใส่ซาวร์ครีมและน้ำมันพืช คนให้เข้ากัน พักไว้
  3. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ เบกกิ้งโซดา และเกลือให้เข้ากัน 2 รอบ พักไว้ ตีเนยกับน้ำตาลทั้งสองชนิดด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนนุ่มฟู ใส่ไข่ไก่และไข่แดงทีละฟองจนครบ ใส่ส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้สลับกับของเหลวที่เป็นช็อกโกแลตโดยแบ่งแป้งเป็น 3 ส่วนและของเหลวเป็น 2 ส่วน ใส่สลับกัน เมื่อเข้าเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ตักแบ่งเค้กใส่พิมพ์ 3 พิมพ์เท่าๆกัน พิมพ์ละประมาณ 415 กรัม เกลี่ยให้เรียบ นำเข้าอบพร้อมกันประมาณ 25-30 นาที นำพิมพ์เค้กออกจากเตา ใช้มีดแซะด้านข้างเค้ก คว่ำเค้กลงบนตะแกรงแล้วลอกกระดาษไขออก พักเค้กให้เย็นสนิท
  4. ระหว่างนั้นทำไส้เชอร์รีโดยล้างเชอร์รีให้สะอาด ซับให้แห้งสนิท แบ่งเชอร์รีเก็บไว้ 8 ลูกสำหรับแต่งหน้า เชอร์รีที่เหลือดึงก้านออกผ่าครึ่ง คว้านเมล็ด นำไปแช่เหล้าเชอร์รีทิ้งไว้ 10 นาที
  5. ทำน้ำเชื่อมสำหรับทาเค้กโดยตั้งน้ำตาลและน้ำบนไฟกลางจนน้ำตาลละลาย ปิดไฟ พอน้ำเชื่อมหายร้อน ใส่เหล้าเชอร์รี เทน้ำจากเชอร์รีที่แช่เหล้าจนครบเวลามาใส่ด้วย คนให้เข้ากัน พักไว้
  6. ตีวิปปิ้งครีมในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไฟฟ้า พอวิปปิ้งครีมเริ่มฟูใส่น้ำตาลไอซิ่งทีละน้อยจนหมด ใส่เหล้าเชอร์รี ตีจนตั้งยอดอ่อนเกือบแข็ง
  7. ประกอบเค้กโดยใช้มีดฟันเลื่อยสไลซ์ด้านบนส่วนโค้งออก ทำเช่นนี้ทั้ง 3 ชิ้น วางเค้กชิ้นแรกบนฐานแต่งเค้ก ใช้แปรงจุ่มน้ำเชื่อมเหล้าทาเนื้อเค้กให้ฉ่ำ ปาดวิปปิ้งครีมให้ทั่ว วางลูกเชอร์รีผ่าครึ่งโดยวางให้เว้นจากขอบเค้กประมาณ 1 นิ้ว ปาดครีมปิดเชอร์รีให้ทั่ว วางด้วยเค้กชิ้นที่ 2 ทำเช่นเดิม แล้วปาดวิปปิ้งครีมด้านบนและด้านข้างให้ทั่ว นำไปแช่ตู้เย็นช่องแข็งก่อนเพื่อให้ครีมเซ็ตตัว แล้วจึงนำมาปาดซ้ำด้วยวิปปิ้งครีมรอบสุดท้ายให้เรียบ (การปาดรอบเเรกเรียกว่า crumb coating เป็นการปาดเพื่อเคลือบไม่ให้เนื้อเค้กหลุดติดขึ้นมาเวลาปาดเนื้อเครีม นำเค้กที่ปาดเรียบร้อยแล้วเข้าตู้เย็นช่องเเข็งประมาณ 20 นาที (นำเข้าแช่ทั้งฐานแต่งเค้ก)
  8. ระหว่างนั้นทำช็อกโกแลตสำหรับเคลือบหน้าเค้กโดยละลายช็อกโกแลตและวิปปิ้งครีมเข้าด้วยกันในไมโครเวฟ คนให้เข้ากัน รอให้ช็อกโกแลตอุ่นแต่ไม่ร้อน นำไปเทบนหน้าเค้กที่เย็นจัด หมุนฐานเเต่งเค้กเล็กน้อยเพื่อให้ช็อกโกแลตไหลลงขอบด้านข้างเค้กเล็กน้อย โรยช็อกโกแลตขูดที่เค้กด้านล่าง เมื่อหน้าเค้กช็อกโกแลตเซ็ตตัวดี (ถ้าเค้กเย็นจัดหน้าจะเซ็ตตัวไม่เกิน 5 นาที) บีบวิปปิ้งครีมเป็นดอกๆตกแต่งด้านบน วางลูกเชอร์รีสดบนยอดวิปปิ้งครีมแต่ละดอก ตัดเค้กเป็น 8 ชิ้นเท่าๆกัน เสิร์ฟกับชาหรือกาแฟ

หมายเหตุ

เค้กที่ประกอบเป็นชั้นๆหลังจากแต่งหน้าเรียบร้อยแล้วควรแช่ตู้เย็นให้เซ็ตตัวทั้งก้อนก่อนอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้วิปปิ้งครีมเฟิร์มและชั้นเค้กจะประสานเป็นชิ้นเดียวกัน